ในช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาว เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการการท่องเที่ยวแบบเดินป่าของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัยและการเดินป่าเพื่อชมธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ภูหมากพริก เป็นตำนานของคนรักป่าอีกตำนานหนึ่งที่ชวนให้นักท่องเที่ยวที่หลงใหลการเดินป่ามาสัมผัส ที่มาของชื่อ ภูหมากพริกในสมัยก่อนเคยมีต้นพริกขนาดใหญ่ขึ้นที่บริเวณ ภูดังกล่าวจนชาวบ้านเรียกว่าภูหมากพริก เป็นแหล่งกำเนิดสมุนไพรสายพันธุ์ต่าง ๆ แหล่งเรียนรู้และเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของความเป็นหินเก่าแก่ยุคไดโนเสาร์คือมีความคล้ายคลึงกับหินแถบจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น บนเขามีลักษณะเป็นเขตร้อนมีความชุ่มชื้นทั้งปีมีน้ำซับบนภูเขาที่ไหลซึมตลอกปี สังเกตได้จากบนทางเดินจะปูลาดไปด้วยตระไคร่น้ำ ไลเคน ปกคลุมไปตลอดเส้นทาง ปรากฏถ้ำพระปูนปั้นที่มีอายุร่วมร้อยปีมาแล้ว ตลอดจนมีต้นสตอยักษ์ขนาด 3 คนโอบเด่นตระหง่านอยู่บนยอดภู และมีต้นจันผา หรือชาวบ้านเรียกว่า ต้นจันได เกิดขึ้นอู่ทั่วบริเวณ เป็นเขตดูแลพันธุ์สัตว์ป่า และดูนก เป็นที่อาศัยของหมูป่า และสัตว์ประเภทเก้ง เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบผจญภัยเดินป่าเป็นอย่างยิ่งภูหมากพริกอยู่ห่างจากตัวอำเภอ 12 ก.ม. นักท่องเที่ยวที่จะไปเยือนควรเตรียมพร้อมร่างกายสำหรับการเดิน และควรติดน้ำดื่ม และสวมรองเท้าสำหรับเดินป่าเพื่อความคล่องตัว และที่สำคัญควรเตรียมเสบียงอาหารเนื่องจากบริเวณดังกล่าวยังบริสุทธิ์อยู่มาก เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าในยามเช้าตรู่ เวลาพระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 05.30 น. -05.45 น.